สิวอักเสบ
เกิดจากการอักเสบของระบบต่อมไขมันที่รูขุมขน โดยเริ่มจากการ อุดตันของระบบต่อมไขมันที่รูขุมขน
ต่อมไขมันทำหน้าที่ผลิตไขมันมาหล่อเลี้ยงผิว เมื่อเกิดการระคายเคืองของรูขุมขนจึงทำให้ไขมันออกมาไม่ได้ เกิดเป็นก้อนไขมันอุดตัน (comedone) อยู่ในรูขุมขน
จากนั้นเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย ร่างกายจึงส่งเม็ดเลือดขาวมาต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรีย ทำให้กลายเป็นตุ่มบวมแดง หลังจากนั้นเมื่อมีเม็ดเลือดขาวและแบคทีเรีย ร่วมกับเซลล์บางส่วนตาย จึงเห็นเป็นหนอง
ที่มา : http://acnecaresite.blogspot.com/2012/08/blog-post_6.html
ดังนั้น หลักใหญ่ในการรักษาสิวก็คือ แก้อักเสบ สลายอุดตัน และป้องกันอุดตัน นั่นเอง
“หลักการรักษาสิว มี 3 ขั้นตอน” คือ
1. แก้อักเสบ หากมีสิวอักเสบอยู่ควรรักษาสิวอักเสบให้หายก่อน แล้วจึง
2. ขจัดอุดตัน ซึ่งมีอยู่ใต้ผิวหรือเกิดขึ้นใหม่ให้หมดไป
3. ป้องกันการอุดตัน ไม่ให้เกิดการอุดตันใหม่ ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาสิว
แต่ขั้นตอนการขจัดอุดตัน และป้องกันการอุดตันสามารถแก้ปัญหาไปพร้อมๆ กับรอยแผลสิวได้
แนวทางปฏิบัติเมื่อเป็นสิวอักเสบ
1. ห้ามแกะ บีบ สิวที่อักเสบ
หลีกเลี่ยงการรบกวนผิวหน้า ห้ามเช็ด ถู ลูบคลำ แกะ เกา กด ดูด บีบ บริเวณสิวอักเสบ ตุ่มแดง ตุ่มหนอง เหตุผลที่ห้ามเพราะ จะทำให้ผนังท่อหรือต่อมไขมันแตก สิวยุบเร็วจริงแต่ข้อเสียคือ เกิดรอยบุ๋มตามมา ต้องมารักษารอยบุ๋มต่อทำให้เสียเวลา หากสิวอักเสบไม่ถูกรบกวนและปฏิบัติถูกต้อง ส่วนใหญ่จะยุบหายเองภายใน 30 วัน
2. การล้างหน้า - 2 ครั้ง / วัน
การล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว วันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น ก็เพียงพอเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนผิวหน้า
3. อย่าขัดถู / เช็ดหน้าแรง = ซับหน้า
การขัดถูหรือการเช็ดหน้าแรงๆ เป็นการกระตุ้นให้เกิดการอุดตัน และรบกวนผิวหน้าสำหรับผู้ที่มีสิวอักเสบอาจทำให้หัวสิวแตก อักเสบลุกลาม เกิดรอยแผลเป็นตามมา ควรเพียงแค่ ทำเพียงซับหน้าเบาๆ
4. เลี่ยงแดด (สิวเห่อ)
สิวที่อักเสบหากถูกแดดจัด ร้อนจัดจะอักเสบ เห่อแดง บวม เพิ่มขึ้น แสงแดดกระตุ้นให้เกิดการอุดตัน ความชื้น เหงื่อออกมากเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิวเมืองร้อน มักเกิดในคนที่เป็นสิวง่าย
5. รักษาสิวอักเสบ แบบเร่งด่วน แบบธรรมชาติ
- สูตรเปลือกมังคุดลดสิวอักเสบ นำผงเปลือกมังคุด ผสมน้ำ อุ่น แต้มบริเวณสิวอักเสบโดยตรงเลยสูตรนี้สามารถทำได้ทุกวันในช่วงมีสิวอักเสบ และค่อยๆลดลงเหลือสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
ในเปลือกมังคุดมีสารที่เรียกว่า GM-1 ช่วยระงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย สารแซนโทน (Xanthone) ช่วยต้านการอักเสบ และสารเทนนิน (Tannin) ที่ช่วยสมานผิวให้เร็วขึ้น
- สูตรว่านหางจระเข้ นำว่านหางจระเข้แช่น้ำ 10-15 นาที เพื่อให้ยางสีเหลืองออก หลังจากนั้นปอกเปลือกเหลือไว้แต่วุ้นใส นำไปล้างยางเหลืองออกให้หมดอีกครั้งจากนั้นนำวุ้นใสหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำมาทาสิวอักเสบวันละ 1-2 ครั้ง
ในว่านหางจระเข้มีสารคาร์บอกซีเพบทิเดส (Carboxypeptidase) สารชนิดนี้มีสรรพคุณลดอาการบวม ปวด ลดการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีสารอะล็อกทิน เอ (Aloctin A) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลใหม่
- ขมิ้นชัน
มีสารกลุ่มเคอร์คูมินอยด์ (Curcumnoids) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และลดการอักเสบ
นำมาพอกสิวอักเสบก่อนนอน แล้วล้างออก
6. ในกรณีผิวมันควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม Olive oil, Lanolin มาใช้กับผิวหน้า เพราะส่วนผสมที่มีน้ำมันจะยิ่งส่งเสริมให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
7. ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก (Water-based) และเป็นชนิดไม่ก่อสิว (Non-comedogence) เพราะผิวหน้าต้องการความชุ่มชื้นจากน้ำมากกว่าน้ำมันเพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว ส่วนเครื่องสำอางชนิดไม่ก่อสิวจะเป็นประเภท Oil free หรือมีส่วนประกอบของน้ำมันน้อย
8. ฝึกผ่อนคลายความตึงเครียด เพราะความเครียดเป็นตัวทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน ซึ่งจะยิ่งทำให้สิวเพิ่มขึ้น อีกทั้งความเครียดยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายติดเชื้อง่าย รวมทั้งบริเวณใบหน้าสิวก็ติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายเช่นกัน
9. พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับเป็นการส่งเสริมให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนตามปกติ ถึงแม้ไม่มีวิจัยว่าการพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้เกิดสิว แต่การพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนแน่นอน ฮอร์โมนนี่แหล่ะเป็นต้นเหตุของการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน ถ้าฮอร์โมนกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไปจะทำให้เกิดสิวอุดตันได้
10. ดูแลเรื่องการขับถ่ายให้เป็นไปตามปกติ เพราะร่างกายจำเป็นต้องขับของเสียออกจากระบบขับถ่าย มีรายงานบอกว่าผู้ที่มีคอเลสเตอรอล (Cholesterol) ในกระแสเลือดสูงจะส่งผลต่อฮอร์โมนที่กระตุ้นการสร้างและขับน้ำมันในชั้นผิว
credit ; http://www.pikool.com/ , หมอมวลชวน