เล่าประสบการณ์ผิวพัง สู่การฟื้นฟูผิวที่ยั่งยืน ค่ะ (คำเตือนมีภาพไม่สวยงามโปรดเตรียมใจค่ะ)

อย่างที่แม่ค้าเคยพูดมาตลอดว่า ตัวแม่ค้าเองเคยมีประสบการณ์เรื่องผิวพรรณ จริงๆ แต่ไม่เคยเอารูปตัวเองมาเปิดเผยซักเท่าไหร่ เพราะไม่อยากทำให้เป็นโฆษณาชวนเชื่อ เพราะ สุขภาพผิวย่ำแย่ของแต่ละคนมาหลากหลายสาเหตุต่างกัน 

แต่ก็ได้แรงบันดาลใจว่า เราสามารถเผยแพร่ ประสบการณ์ส่วนตัวให้กับสาวๆ แฟนเพจเราไปใช้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองได้ บางคนอาจจะ เจอแบบเดียวกันค่ะ ก็สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้ค่ะ

เดิมทีแม่ค้าเป็นคนที่ผิวสุขภาพดี แทบไม่เคยเป็นสิวเลย อย่างมากก็ 1-2 เม็ด

เป็นคนชอบลองอะไรใหม่ๆ จนวันนึงไปลอง เซรั่มอยู่ตัวนึง เพื่อนบอกว่าใช้แล้วดีมาก เราก็เลยใช้ตาม

ปรากฎว่า จากนั้นผื่นขึ้น สิวอุดตันขึ้นเต็มแก้มไปหมด เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตที่มีสิว กระหน่ำผิวมากมายขนาดนั้น 

แต่ในที่สุดก็หาย เพราะ  สิวตอนนั้นน่าจะมาจากการแพ้ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ผิวกลับมาเป็นแบบเดิม 

ดังนั้นตรงนี้ก็คือ ผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ บางคนอาจจะใช้ดี บางคนอาจจะแพ้ 

ดังนั้นเวลาใช้สินค้าทุกชนิดก็พึงระวังด้วยตัวเองนะคะ

และจากนั้น เป็นช่วงเริ่มแต่งหน้า แต่ไม่เคยเข้าใจว่า ทำไมแต่งหน้าแล้วต้องมีน้ำยาล้างเครื่องสำอาง 

เพราะ เข้าใจว่าแค่ล้างด้วยโฟมล้างหน้าก็สะอาดแล้ว ก็เลยไม่เคยใช้เลย 

ทำให้มีสิวอุดตันบริเวณแก้ม ทีละ 1-2 เม็ด อยู่ตลอดไม่เคยหายเลย 

เพราะเกิดจากการแต่งหน้า ด้วยเบสและรองพื้นแถมตามด้วยแป้งสารพัดจบด้วยบรัชออน 

แล้วล้างออกไม่หมดอย่างนี้จะไม่ให้เป็นสิวอุดตันได้ยังไง ถูกมั้ยคะ???

ประกอบกับ ช่วงนั้นเครียดมากจากเรื่องส่วนตัวมากๆ สภาพจิตใจหม่นหมองค่ะ  

ลองสังเกตุตัวเองดูนะคะถ้าสภาพจิตใจหม่นหมองมากๆ ประมาณ 1 ปีผลตามมาคือ ผิวจะออกมาแย่แบบไม่เคยแย่มาก่อนค่ะ   

เครียดมากๆ แถมยังพักผ่อนน้อย นอนไม่หลับ ทำงานหนัก นอนวันละ 2-3 ชม. ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ (แทบไม่มาเลยเป็นปีๆ ค่ะ ผิดปกติมากๆค่ะ ) กินอาหารเยอะเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน น้ำหนักน้อยผิดปกติ ตอนนั้น อายุ 23-24 แต่น้ำหนักแค่ 36-37 กก. ผอมซูบร่างกายย่ำแย่ จนผิวก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ

พอมาถึงตอนนี้ ก็เกือบสายค่ะ หน้าพังจนไม่มีชิ้นดี บุคคลิกลักษณะภายนอกดูไม่ได้เลยค่ะ ผอมซูบ สิวเกรอะ  

แม่ค้าเริ่มหาวิธีแก้หลากหลายวิธี ยาทาแก้สิวทั้งแบบถูก แบบแพง จากทั้งในและต่างประเทศที่เค้ารีวิวว่าดี  หาหมอหลายๆ ที่ แต่ไม่เคยหายเลย  

เป็นอยู่อย่างนั้นเรื่อยๆ ถามว่าแล้วใครจะมาแคร์กับหน้าเรา ร่างกายเรามั้ย ?? ก็ไม่เลยค่ะ  เราต้องเริ่มรักตัวเองนะคะ

 

จากนั้นทำใจให้สบายเริ่มสนใจตัวเองรักตัวเอง ทำความเข้าใจกับร่างกายตัวเอง 
เพราะเค้าบอกว่า ความสวยต้องมาจากภายในสู่ภายนอก

จึงเริ่มจากการDetox ร่างกายตัวเอง สูตรง่ายๆ น้ำผึ้ง โยเกิร์ต น้ำมะนาว เป็นประจำค่ะ 

เพื่อให้ระบบขับถ่ายกลับมาดีดังเดิมและทำความเข้าใจร่างกายตัวเอง 

พักผ่อนให้เพียงพอ  ออกกำลังกายประจำค่ะ 

ตอนนั้นแม่ค้า เริ่มเล่นแบตมินตันทุกวันเลยค่ะ เริ่มจากทีละ 30 นาที เป็น 1 ชม. จากนั้นเป็น 2 ชม.ค่ะ 
ที่สำคัญของการออกกำลังกายอีก 1 อย่างคือ เรามีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ค่ะ จะช่วยเป็นแรงผลักดันได้ดีมากๆ เลยค่ะ 

การออกกำลังกาย ช่วยเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนให้กับเซลล์ผิวหนัง 

เมื่อมีเหงื่อออกรูขุมขนก็จะเปิด ร่างกายจะขับสารพิษออกมาทางผิวหนัง 

เหงื่อจะช่วยล้างทำความสะอาดรูขุมขนจากสิ่งสกปรก, เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และน้ำมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี

เวลาออกกำลังกาย ไตและตับจะทำการกำจัดพิษออกจากร่างกายได้ดียิ่งขึ้น 

ความเครียดก็จะลดลงไปได้ด้วยการออกกำลังกาย 

ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวที่ทุกคนทราบดี - -

หลังการออกกำลังกายควรอาบน้ำให้สะอาดเพื่อชำระล้างเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกที่ร่างกายกำจัดออกมา 

และเพื่อเป็นการป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียซึ่งมีเหงื่อเป็นตัวล่อ

หลังจากการออกกำลังกายแล้ว ควรดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ น้ำนั้นมีประโยชน์ในการกำจัดของเสียและพิษออกจากร่างกาย 

และยังช่วยทดแทนน้ำที่เสียไปกับเหงื่อ ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เป็นสิวนั้นมักเป็นผู้ที่ดื่มน้ำไม่เพียงพอ



ส่วนผิว

แม่ค้าก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง หันมาศึกษาสมุนไพรต่างๆ อย่างจริงจัง หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีในชีวิตประจำวันให้มากที่สุด

หยุดครีมทุกอย่าง ไม่ทาและแต่งหน้าเลย จากนั้นสิวก็เริ่มทุเลาลง แต่ยังขึ้นอยู่ เป็นๆ หายๆ อยู่อย่างนั้นไป 2 ปี 

จนเริ่มเข้าใจว่า สิวของตัวเองนั้นเกิดจาก ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง 

เพราะ ตอนเครียด จึงได้มีคำแนะนำให้ลองปรับฮอร์โมนร่างกายตัวเองค่ะ 

(ตรงนี้แนะนำปรึกษาเภสัชนะคะ ว่าสิวฮอร์โมนควรแก้ไขอย่างไรให้ถูกต้อง)

ประมาณ 4-5 เดือน ผิวกลับมาเป็นปกติ สิวหายเกลี้ยงไม่กลับมาเป็นอีก

นอกจากสิวช่วงมีประจำเดือน 1-2 เม็ด ผิวดีขึ้นแม้ไม่ต้องใช้อะไรมากค่ะ แค่บำรุง และ สครับประจำ ก็รู้สึกผิวดีแล้วจ๊า

เหมือนกับประโยคที่ว่า ‘เราต้องฟังเสียงร่างกายของตัวเอง’   

เริ่มแก้ที่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันเราก่อน
นอนให้พอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ต้องหักโหมใส่ใจระบบในตัวเองบ้าง 

เพราะแต่ละคนก็มีสัญญาณไม่เหมือนกัน เมื่อไหร่ที่ร่างกายเริ่มเตือนเราแล้ว 

เกิดอะไรผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ กับตัวเองแล้ว ก็ต้องสังเกตให้ได้ แล้วรีบเปลี่ยนมันไปในทางที่ดีขึ้น 

ตอนนี้ มีความสุขดี สุขภาพดี จิตใจแจ่มใส กินอาหารอร่อย 

จนน้ำหนักเริ่มขึ้น จนตอนนี้จะหยุดไม่อยู่แล้วจ๊า 45 กก. แล้วค่ะ

ภาพปัจจุบันจ๊าาาา สิวหายแล้ว ไม่ต้องขาวฟรุ้งฟริ้งมากนัก 

แต่ผิวสุขภาพดีขึ้น สิวไม่ค่อยขึ้น มีร่องรอยสิวประจำเดือนบ้าง ก็ไม่เป็นไรนะคะ