การเกิด ฝ้า คือ รังสี UVA เข้าไปสามารถทำลายผิวได้ลึก
จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมื่อตากแดดนานๆ แล้วผิวถึงคล้ำเสีย และเกิดฝ้าได้
รวมไปถึงฮอร์โมนและกรรมพันธุ์ ก็เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าได้เช่นกัน
วิธีการรักษา ฝ้า ด้วยธรรมชาติ
1. สูตรว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ ถือเป็นสมุนไพรใช้รักษาแผล ยอดนิยมมากๆ
วิธีหนึ่ง โดยวิธีรักษาฝ้าแบบธรรมชาติ
นำว่านหางจระเข้มาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที
ทาเป็นประจำก็จะช่วยให้ฝ้าหายได้ไวยิ่งขึ้น
2. สูตรหัวไชเท้า
หัวไชเท้า สามารถนำมาทำเป็นสูตรรักษาฝ้าได้
เพียงแค่นำหัวไชเท้าบดหยาบๆ มาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที
(แล้วแต่สภาพหน้าของแต่ละคนว่ารับได้แค่ไหน ส่วนคนที่มีผิวแพ้ง่ายไม่ควรใช้สูตรนี้)
แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง หรือวันเว้นวัน
ก็จะช่วยลดฝ้าทำให้ฝ้าดูจางลงได้มากเลยทีเดียว และนอกจากจะช่วยลดฝ้าได้แล้ว
หัวไชเท้ายังมีสรรพคุณช่วยลดริ้วรอยต่างๆ และทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วย
แต่หลังจากล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นแล้ว ก็ให้กระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์หรือน้ำเย็นเพื่อ
ป้องกันไม่ให้รูขุมขนกว้างด้วยล่ะ
3. สูตรมะขามเปียก
อีกหนึ่งวิธีรักษาฝ้าด้วยสมุนไพร ให้คุณนำเนื้อมะขามเปียกมาพอกหรือทาบางๆ
บริเวณผิวที่เป็นรอยฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที แล้วล้างออก
วิธีนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าทำให้รอยฝ้าดูจางลงและยังช่วยลดรอยด่างดำได้ด้วย
4. สูตรใบบัวบก
การวิจัยพบว่าใบบัวบกนั้นมีสรรพคุณในการช่วยรักษาอาการของโรคผิวหนังได้
โดยเฉพาะฝ้า กระ และสิว วิธีใช้ก็ไม่ยาก เพียงแค่นำมาปั่นแล้วใช้น้ำใบบัวบกมา
เช็ดหน้าแทนการใช้โทนเนอร์ก่อนนอนทุกวัน เพียงเท่านี้รอยฝ้าต่างๆ ก็จะค่อยๆ
จางลง เหลือไว้แต่เพียงหน้าอันขาวเนียนสดใส
5. บำรุงจากภายในสู่ภายนอก
นอกจากการรักษาด้วยวิธีต่างๆ ในระหว่างการรักษาเราสามารถดูแลตัวเองจาก
ภายในได้โดยการรับประทานทานอาหารที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ วิตามินซี และ
วิตามินอี ที่เป็นตัวช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ ฝ้า ขยายตัว
ใหญ่ขึ้นนั่นเอง
อีกอย่าง อย่าลืม !!! การรักษา การป้องกันเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ควรเริ่มต้น
จากการหลีกเลี่ยงแสงแดด ถ้าหากต้องเผชิญแสงแดดก็ควรแต่งกายแบบไม่เผยผิว
พร้อมกับทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวจากรังสียูสี โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า
SPF30 ขึ้นไป และต้องเป็นแบบ PA+++ ด้วย ถึงจะช่วยปกป้องผิวได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ เพื่อการป้องกันแสงแดด
นอกจากนี้คุณควรสังเกตตัวเองด้วยว่าเรารับประทานยาอะไรที่เสี่ยง
ต่อการเกิด ฝ้า หรือเปล่า เช่น ยาคุมกำเนิด ใช้เครื่องสำอางอะไรแล้วแพ้
จนเป็นรอยคล้ายฝ้าหรือไม่
เครดิตจาก:http://women.mthai.com/beauty/beautytipandtrick/213565.html